วันศุกร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

การรับบิณฑบาต from Khaosod

การรับบิณฑบาต

คอลัมน์ ศาลาวัด


การบิณฑบาต ถือเป็นกิจวัตรของพระภิกษุ-สามเณรในพระพุทธศาสนา ในการออกเดินถือบาตร รับการถวายภัตตาหารหรือสิ่งของจากชาวบ้านในเวลาเช้า

สำหรับระเบียบปฏิบัติการรับบิณฑบาตของพระสงฆ์ มีดังนี้

การ อุ้มบาตร นิยมอุ้มบาตรประคองด้วยมือทั้งสอง ให้บาตรอยู่ระดับท้อง สูงกว่าประคดเอวขึ้นมา แต่ไม่นิยมอุ้มชูสูงขึ้นมาจนถึงอก และนิยมถือบาตรภายในจีวร โดยดึงจีวรด้านขวามือมาปิดบาตร นำออกมาเฉพาะเมื่อจะรับบิณฑบาตเท่านั้น

ขณะรับบิณฑบาต นิยมยืนตรง ห่างจากผู้ใส่บาตรประมาณ 1 ก้าว มือซ้ายรองรับบาตร มือขวาแหวกจีวรออกและเปิดฝาบาตร ประคองฝาบาตรเข้ากับข้างบาตร

การสะพายบาตร นิยมสะพายให้บาตรห้อยอยู่ข้างตัวด้านขวา มือขวาคอยประคองบาตรไว้ไม่ให้ส่ายไปส่ายมาขณะเดิน

ไม่นิยมไพล่หลังบาตรมาข้างหน้า เพราะจะทำให้เดินไม่สะดวก และไม่นิยมไพล่บาตรไปข้างหลัง ด้วยจะทำให้คล้ายคนหลังโกง

ขณะ รับบิณฑบาต นิยมยืนตรง ห่างจากผู้ใส่บาตรประมาณ 1 ก้าว มือซ้ายช่วยยกชายจีวรขึ้นแล้วจับสายโยกบาตร มือขวาเปิดฝาบาตรแล้วประคองฝาบาตรเข้ากับข้างบาตร

ส่วนวิธีการรับ บิณฑบาต ประคองบาตรด้วยมือทั้งสอง ยื่นออกไปเล็กน้อย ตาทอดมองในบาตร สำรวมจิตพิจารณาด้วยธาตุปฏิกูลปัจจเวกขณปาฐะ ว่า "ยถาปัจจยัง ปวัตตมานัง ธาตุมัตตเมเวตัง ยทิทัง ปิณฑปาโต ฯเปฯ" จนจบบท ไม่ส่งใจไปอื่น ไม่แสดงกิริยาอาการรีบร้อนจะจากไป ไม่นิยมมองดูหน้าผู้ใส่บาตรหรือชวนผู้ใส่บาตรสนทนาขณะที่กำลังรับบิณฑบาต

เมื่อ รับบิณฑบาตเสร็จแล้ว นิยมถอยหลังออกห่าง 1 ก้าว แล้วยืนตรงขณะที่ผู้ใส่บาตรยกมือไหว้ ตั้งจิตอธิษฐานให้พรว่า "เอวัง โหตุ ขอจงสำเร็จตามที่ปรารถนาเถิด" หรืออธิษฐานว่า "ขอจงมีความสุข ความเจริญยิ่งๆ ขึ้นไปเถิด" ดังนี้ เป็นต้น แล้วจึงเดิน จากไป

นิยม รับอาหารบิณฑบาตไปตามลำดับผู้รอคอยใส่บาตร และนิยมเข้ารับบิณฑบาตตามลำดับของพระภิกษุสามเณรที่มาถึงก่อนและหลัง ไม่นิยมลัดคิวตัดหน้าพระภิกษุสามเณรอื่นที่มารออยู่ก่อน

ขณะเดินไป บิณฑบาต นิยมมีสมณสารูปสำรวมกิริยาเรียบร้อย สำรวมกาย สำรวมตา สำรวมปาก ไม่เดินเร็ว หรือเชื่องช้าเกินไป ไม่เหลียวซ้ายแลขวาลอกแลก ไม่เที่ยวทักคนนี้คนนั้นอันแสดงถึงความไม่สำรวม

หรือไม่นิยมเดินพูดคุยกันระหว่างพระภิกษุสามเณรด้วยกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น