วันเสาร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2553

สิ่งที่ควรปรารถนา (ข่าวสด)

สิ่งที่ควรปรารถนา
คอลัมน์ ธรรมะวันหยุด
พระเทพคุณาภรณ์ (โสภณ โสภณจิตฺโต ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร / watdevaraj@hotmail.com
สมัย หนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ วัดพระเชตวัน มีเศรษฐีท่านหนึ่งซึ่งถูกลูกชายสอบถามว่า "อะไรเป็นประตูชัยแห่งประโยชน์ หรือสิ่งใดที่ควรปรารถนาเป็นอันดับแรก" ท่านเศรษฐี ไม่อาจตอบข้อสงสัยนี้ได้ จึงพาบุตรชายไปเฝ้าพระพุทธองค์และทูลถามเรื่องดังกล่าว

หากถามว่า คนเราปรารถนาสิ่งใดก่อนในชีวิต ถ้าคิดอย่างปุถุชนคนทั่วไปก็คงจะตอบคล้ายๆ กัน นั้นก็คือ ต้องการความมั่งคั่ง ความร่ำรวย และความสุขสบายด้วยกันทุกคน ด้วยเหตุผลที่ว่า เมื่อมีความมั่งคั่ง ร่ำรวยแล้ว ก็ต้องมีความสุขความสบายตามมา แต่ความมั่งคั่ง ร่ำรวยไม่ได้ช่วยให้เรามีความสุขตลอดไป เพราะความสุขที่สมบูรณ์จริงแท้นั้นต้องเป็นความสุขทั้งทางกายและทางใจไป พร้อมๆ กัน

พระพุทธองค์ทรงเฉลยข้อทูลถามของเศรษฐีและบุตรชายว่า สิ่งที่คนเราควรปรารถนาก่อนสิ่งใดทั้งปวงนั้นมี 6 ประการ ตามลำดับ ดังนี้

ประการที่ 1 ความไม่มีโรค

ความไม่มีโรคมี 2 อย่างด้วย คือ

1.ความ ไม่มีโรคทางกาย ได้แก่ความไม่พิกลพิการทางกาย มีอาการครบ 32 ประการ ตั้งแต่กำเนิดเกิดมา รวมไปถึงความไม่มีโรคภัยไข้เจ็บเข้ามาเบียดเบียน อย่างนี้เรียกว่า ความไม่มีโรคทางกาย 2.ความไม่มีโรคทางใจ ได้แก่ ไม่ถูกกิเลสแห่งความทุกข์ใจ คือ ราคะ โทสะ โมหะทั้งหลายเบียดเบียนให้เร่าร้อนดั่งไฟสุมอยู่ตลอดเวลา อย่างนี้เรียกว่า ความไม่มีโรคทางใจ คนเรานั้นอาจไม่เป็นโรคทางกายได้บ้าง เป็นบางครั้งบางคราว หรือเป็นปี แต่ไม่มีสักคนที่จะไม่เป็นโรคทางใจ

ประการ ที่ 2 ศีล ได้แก่การสำรวมกายและวาจา ไม่เบียดเบียนผู้อื่น วาจาไม่กล่าวเท็จทำลายประโยชน์ผู้อื่น ไม่กล่าวร้ายป้ายสีให้ผู้อื่นเสียหาย ไม่กล่าววาจาหยาบคาย ไม่กล่าวเพ้อเจ้อ

ประการที่ 3 เชื่อฟังท่านผู้รู้ ได้แก่ พระพุทธเจ้า พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย เป็นต้น ผู้รู้กาลนาน ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อน ย่อมมีประสบ การณ์มากกว่าผู้ที่เกิดในภายหลัง

ประการที่ 4 การศึกษาเล่าเรียน ได้แก่ เรียนรู้ศิลปะในทางโลก และเรียนรู้ศิลปะในทางธรรม ศิลปะในทางโลกก็เอาไว้ประกอบอาชีพเลี้ยงตนและครอบครัว ศิลปะทางธรรมก็เอาไว้ขจัดขัดเกลากิเลสต่างๆ

ประการที่ 5 ประพฤติถูกธรรม ได้แก่ การประพฤติสุจริต 3 อย่างคือ 1.ประพฤติสุจริตทางกาย เช่น ไม่เบียดเบียนทำลายผู้อื่น เป็นต้น 2.ประพฤติสุจริตทางวาจา เช่น ไม่พูดเท็จ ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดคำหยาบ ไม่พูดเพ้อเจ้อ เป็นต้น 3.ประพฤติสุจริตทางใจ เช่น ไม่คิดอยากได้สิ่งของของผู้อื่นโดยผิดศีลธรรม ไม่คิดพยาบาท ป้องร้อย อาฆาต เบียดเบียนกัน

ประการที่ 6 ความไม่ท้อถอย ความพากเพียร ได้แก่ อดทนอดกลั้นต่อความลำบาก ความเหน็ดเหนื่อยกายในการประกอบสัมมาอาชีพ หนักเอาเบาสู้ ไม่ผัดวันประกันพรุ่ง เป็นต้น

ฉะนั้นคุณธรรมทั้ง 6 ประการนี้เป็นสิ่งที่คนเราควรปรารถนาเป็นอันดับแรก เพระเป็นทางแห่งประโยชน์ เป็นทางนำไปสู่ความสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนา อันได้แก่ความมั่งคั่งและความสุขกายสุขใจ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น