วันศุกร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ความสุขระดับชาวบ้าน khaosod


ความสุขระดับชาวบ้าน

ธรรมะวันหยุด
พระเทพคุณาภรณ์ (โสภณ โสภณจิตโต ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร www.watdevaraj.com


พระพุทธเจ้าตรัสสอนเรื่องของความสุขไว้ 4 ประการคือ

ประการที่ 1 สุขเกิดแต่การมีทรัพย์ เพราะทรัพย์เป็นเหตุให้ปลื้มใจ คือความสมบูรณ์ในปัจจัย 4 คนมีทรัพย์ย่อมได้รับความสุข ปรารถนาในปัจจัย 4 ย่อมได้ การมีทรัพย์คือความมั่งคั่ง ความสมบูรณ์พูนสุขด้วยปัจจัย 4 แต่ต้องรู้จักการใช้สอยทรัพย์สมบัตินั้น กล่าวคือการใช้จ่ายในทรัพย์สินเหล่านั้นให้เป็นประโยชน์

ถ้ามีทรัพย์ แต่ไม่รู้ในการที่จะใช้จ่ายทรัพย์ให้เป็นประโยชน์ ก็หาความสุขมิได้ มีแต่ความเดือดร้อน กังวลใจในการรักษาทรัพย์สมบัติที่ไม่เป็นประโยชน์แก่ตนและผู้อื่น อีกทั้งไม่รู้วิธีการบริหารทรัพย์ ให้เป็นประโยชน์ในทางที่ชอบ ทรัพย์นอกจากไม่เพิ่มพูนขึ้นแล้ว ยังจะไม่เป็นประโยชน์ต่อคนอื่นๆ อีกด้วย

ประการที่ 2 สุขเกิดแต่การใช้จ่ายทรัพย์บริโภค ผู้ที่ไม่มีปัญญา ย่อมจับจ่ายใช้สอยทรัพย์โดยไม่คำนึงถึงความหมดเปลือง กล่าวคือการไม่รู้จักประมาณการใช้จ่ายทรัพย์สมบัติ ทรัพย์สมบัติก็มีแต่อันจะต้องสิ้นไปหมดไป ถูกทำลายไปโดยปราศจากประโยชน์

ส่วนผู้มีปัญญาย่อมใช้จ่ายทรัพย์ให้เป็นประโยชน์ รู้จักประมาณในการใช้จ่าย รู้จักการบริหารในทรัพย์สมบัติของตนให้เกิดประโยชน์ ไม่ฟุ่มเฟือย ไม่สุรุ่ยสุร่าย ให้เป็นไปแต่พอเหมาะพอควร ให้เกิดความพอดีกับกำลังทรัพย์ที่มีอยู่ ให้พอเหมาะกับรายได้กับที่ตนได้รับ และให้เหลือพอที่จะอดออม เป็นทุนสะสมสำหรับชีวิตครอบครัว

ประการที่ 3 สุขเกิดแต่การไม่ต้องเป็นหนี้ หนี้คือสิ่งที่ตกค้าง จะต้องชำระเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ทำให้เกิดความทุกข์อีกด้วย คนมีหนี้จะเกิดอาการหวาดผวา นอนไม่หลับ ฟุ้งซ่าน จิตใจไม่สงบ คนมีหนี้สินมากๆ สังคมจะขาดความเชื่อถือ ไม่เป็นที่ยอมรับ ยิ่งไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามสัญญาหรือตามที่กฎหมายกำหนด ก็จะกลายเป็นคนล้มละลาย เพราะฉะนั้น การไม่เป็นหนี้ใคร จึงเป็นความสุข

ประการที่ 4 สุขเกิดแต่การทำงานที่ปราศจากโทษ ผู้ที่ทำงานปราศจากโทษย่อมจะมีความสุข เพราะเป็นงานที่สุจริต ไม่ผิดต่อกฎหมาย ไม่ผิดต่อศีลธรรม ไม่เป็นที่เดือดร้อนแก่ใครๆ คนที่ทำงานที่ปราศจากโทษนั้น ย่อมได้รับความสุข ความอิ่มใจ ปลาบปลื้มใจ เพราะไม่ต้องหวาดผวา ไม่เหมือนกับคนที่ทำงานทุจริต ผิดกฎหมาย ประกอบไปด้วยโทษ เขาย่อมหวาดกลัวในขณะที่ทำและเดือดร้อนในขณะที่ทำเสร็จแล้ว ความสุขดังกล่าวมา จะเกิดมีขึ้นได้ ก็ต้องอาศัยความสามัคคีร่วมมือร่วมใจกันเพื่อช่วยกันสร้างประเทศชาติบ้านเมือง ให้เจริญรุ่งเรือง อย่าเอารัดเอาเปรียบเบียดเบียนกันและกัน ให้คำนึงถึงส่วนรวมคือประเทศชาติเป็นสำคัญ เพราะเมื่อประเทศชาติเจริญรุ่งเรืองแล้ว เราก็มีความสุข อยู่เย็นเป็นสุขโดยถ้วนหน้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น