วันเสาร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2555

คนมีทรัพย์ khaosod


คนมีทรัพย์

คอลัมน์ ธรรมะวันหยุด
พระเทพคุณาภรณ์ (โสภณ โสภณจิตโต ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร www.watdevaraj.com


ชื่อว่าทรัพย์ ใครก็อยากได้ ใครก็ปรารถนา เพราะทรัพย์นั้นจะกล่าวไปก็คล้ายกับแก้วสารพัดนึก สามารถจะดลบันดาลทุกสิ่งทุกอย่างให้กับเจ้าของได้ คนมีทรัพย์จะได้รับการยกย่องเชิดชู



คนมีทรัพย์ ใครๆ ก็นับเป็นญาติ ไปไหนมาไหนทุกคนก็เกรงใจให้เกียรติ ทุกคนจึงแสวงหาแต่ทรัพย์กัน วันๆ หนึ่งคนเราจะสาละวนยุ่งอยู่กับหน้าที่การงาน ก็เพื่อทรัพย์ทั้งนั้น คนไม่ขยันก็ไม่สามารถจะหาทรัพย์ได้



คนเช่นไรได้ชื่อว่าเป็นคนขยัน คนขยันมีลักษณะ คือ จะก้มหน้าก้มตาทำงานโดยไม่เกี่ยงว่าอากาศมันหนาวเกินไป อากาศมันร้อนเกินไป ทำงานได้ทั้งนั้นไม่ว่าจะอยู่ในสภาพดินฟ้าอากาศอย่างไร ไม่ผัดวันประกันพรุ่ง



คนขยันเท่านั้นจึงจะหาทรัพย์ได้ คนขี้เกียจไม่ต้องพูดถึง ความสำคัญของการที่ได้ทรัพย์มาแล้วจะทำอย่างไร จึงจะรักษาทรัพย์นั้นไว้ได้ ถ้าหากหามาได้แล้วเก็บไว้ไม่อยู่มันก็ไม่มีประโยชน์



ประโยชน์ของการมีทรัพย์อยู่ที่การรู้จักรักษาทรัพย์ที่หามาได้นั้นไว้ให้ได้ พระพุทธเจ้าได้แนะวิธีรักษาทรัพย์ที่หามาได้ว่า "ผู้ขยันในหน้าที่การงาน ไม่ประมาท เข้าใจจัดการเลี้ยงชีวิตพอสมควร จึงรักษาทรัพย์ที่หามาได้"



ทำอย่างไรจึงได้ชื่อว่า ประมาทในทรัพย์ คนบางคนแสวงหาทรัพย์มาได้โดยง่าย เมื่อได้มาแล้วก็ใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่าย ไม่รู้จักเก็บหอมรอมริบเอาไว้ใช้ในยามคับขันจำเป็น ด้วยคิดว่าเงินทองจะเอาเท่าไรก็ได้ บางรายใช้จ่ายเกินตัว อย่างนี้จะมีเงินที่ไหนไปเก็บ การที่จะรักษาทรัพย์ไว้ได้อยู่ที่การรู้จักประหยัด โดยนิสัยเราเป็นคนใช้จ่ายฟุ่มเฟือยไปตามกระแส ไม่ค่อยรู้จักประหยัด อะไรใหม่ๆ ก็พากันนิยมชมชอบ แม้ราคาจะแพง ก็พยายามแข่งกันมีให้ได้



เข้าใจจัดการเลี้ยงชีวิตพอสมควร หมายความว่า ให้จับจ่ายใช้สอยเลี้ยงชีวิตให้พอเหมาะพอควรแก่ทรัพย์ที่หามาได้ ไม่ให้ฝืดเคืองจนเกินไป และก็ไม่ให้ฟุ่มเฟือยจนเกินไป บางคนทำมาหาได้ แทนที่จะนำทรัพย์นั้นมาใช้จ่ายให้มีความสุขบ้าง ก็เก็บไว้หมด แต่ตัวเองกลับอดอยาก อย่างนี้ก็ไม่ถูก หรือฟุ่มเฟือยเกินไป พอทำมาหาได้ก็กินแต่อาหารดีๆ แพงๆ ไม่พอเหมาะพอควร ต้องควบคุมให้อยู่ในความพอเหมาะพอควรแก่ทรัพย์ที่หามาได้



การที่จะใช้จ่ายทรัพย์ที่หามาได้นั้น จะใช้จ่ายอย่างไรจึงจะถูกต้อง จึงจะดี ก็ต้องใช้จ่ายในสิ่งที่เป็นประโยชน์ ประโยชน์ที่เกิดจากการใช้จ่ายทรัพย์ที่มีอยู่ ท่านกล่าวไว้ 5 อย่าง คือ



1. ใช้เลี้ยงตัวเอง เลี้ยงพ่อแม่ เลี้ยงบุตรภรรยาให้เป็นสุข

2. ใช้เลี้ยงเพื่อนให้เป็นสุข

3. ใช้บำบัดอันตรายที่เกิดจากเหตุต่างๆ

4. ใช้สงเคราะห์ญาติ ต้อนรับแขก ทำบุญอุทิศให้ผู้ตาย ทำบุญอุทิศให้เทวดา เสียภาษีอากร

5. บริจาคทานแก่สมณะผู้ประพฤติชอบ



เมื่อทุกคนนำเอาหลักธรรมดังกล่าวนี้ไปปฏิบัติแล้วก็จะทำให้ครอบครัว มีหลักฐานมั่นคง อยู่กันอย่างมีความสุข เมื่อครอบครัวมั่นคงเป็นสุขแล้ว ประเทศชาติก็จะมีหลักฐานมั่นคงไปด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น