วันศุกร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2554

พุทธโอสถ khaosod

พุทธโอสถ

คอลัมน์ หน้าต่างศาสนา


ใน โลกนี้ก็ยังมีโรคอีกจำนวนไม่น้อยที่ไม่สามารถจะรักษาด้วยวิธีสมัยใหม่หรือ กินยาอย่างไรก็ไร้ผล จนทำให้ผู้ป่วยและคนใกล้ชิดเกิดความทุกข์ทรมานทั้งร่างกายและจิตใจ

โรคที่ว่าเขาบอกว่าเป็นโรคเกิดจากกิเลสตัณหา ยังทำให้เกิดโรคทุกข์ไม่มีที่สิ้นสุด

ตำรับ ยาแก้โรคดังกล่าว เรียกว่า พุทธโอสถ ช่วยบรรเทาอาการของโรคหรือถ้าใช้อย่างสม่ำเสมอ ร่างกายก็อาจสร้างภูมิต้านทานขึ้นมาได้เอง จนโรคร้ายหายไปได้ในที่สุด

ยา พุทธโอสถ เป็นตำรับยาของพระพุทธองค์ ที่เก่าแก่และค้นพบมาแล้วกว่า 2,500 ปี เป็นยาวิเศษที่มีหลายขนาน และหลายสูตร สุดแต่ผู้ป่วยต้องการรักษาโรคใด ดังได้ยกตัวอย่าง เช่น

โรคอิจฉาริษยา โรคนี้เมื่อเกิดกับผู้ใด จะเกิดความร้อนรุ่ม ธาตุไฟในตัวจะเพิ่มมากกว่าปกติ อาการของโรคนี้มีหลายระดับ และแต่ละคนก็จะแสดงออกไม่เหมือนกัน

ทางแก้และยารักษา ส่วนใหญ่ผู้ที่เกิดโรคอิจฉาริษยานั้น มักอยู่บนสมมติฐาน 2 ประการ คือ

ประการแรกเกิดจากความน้อยเนื้อต่ำใจ คิดว่าตัวเองด้อยกว่าผู้อื่น เช่น จนกว่า สวยน้อยกว่า เก่งน้อยกว่า ฯลฯ

ประการ ที่สอง เกิดจากการคิดว่าตัวเองดีกว่าผู้อื่น แต่กลับไม่ได้รับการยอมรับหรือได้ในสิ่งที่ตนเองคิดว่าน่าจะต้องได้มากกว่า ผู้อื่น เช่น คิดว่าตัวเองทำงานเก่ง ฉลาด น่าจะต้องได้รับตำแหน่งที่คาดหวัง แต่กลับไม่ได้

ดังนั้น ตำรับยาที่จะแก้โรคนี้ได้ ต้องใช้สูตรที่ชื่อว่า ความเมตตา คือ การรู้จักรักตนเองและผู้อื่น ให้เป็น มีความปรารถนาดีต่อตนเองและผู้อื่นไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว ที่ทำงานหรือแม้แต่กับศัตรู

วิธีใช้ เมื่อตื่นนอนทุกเช้า ให้รินความเมตตาออกมาจากใจ สัก 1 ช้อนโต๊ะแล้วกินก่อนอาหารเช้า จะทำให้เรามองโลกด้วยความสดชื่น ไม่ไปคอยจับผิดผู้อื่นให้เกิดความขุ่นข้องหมองใจต่อกัน ทำอะไรกับใคร ก็จะทำด้วยความรัก

เพราะความเมตตาจะเป็นเหมือนน้ำที่ช่วยดับธาตุไฟ อันร้อนรุ่มกลุ้มใจให้ลดน้อยลง และหากจะให้หายเร็วยิ่งขึ้น อาจจะเพิ่มกลางวัน เย็น และก่อนนอนอีกครั้งละ 1 ช้อนชา พร้อมฝึกลมหายใจ ด้วยการหายใจเข้า หายใจออก คือ ให้เห็นแก่ตัวให้น้อยลง และเห็นแก่คนอื่นให้มากขึ้น

ไม่นานโรคอิจฉาริษยาก็จะลดน้อยถอยลงไป

พุทธ โอสถ สามารถทั้งแก้และกันโรคที่จะทำให้เกิดทุกข์ได้อย่างแท้จริง อยู่ที่ว่าเราจะเชื่อมั่นในยาขนานนี้แล้วปฏิบัติตาม หรือจะปล่อยให้โรคคุกคามเราต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น