วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2556

ปัญญา 1 khaosod


ปัญญา 1

ธรรมะวันหยุด
พระเทพคุณาภรณ์ (โสภณ โสภณจิตฺโต ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร / www.watdevaraj.com


ปัญญา คือ ความรู้ที่ประกอบด้วยเหตุผล สามารถกำจัดความโง่เขลาได้



ความโง่เขลา เปรียบเหมือนความมืดที่ครอบงำจิตใจของมนุษย์ ส่วนปัญญา เปรียบเหมือนแสงสว่าง



เมื่อมนุษย์มีปัญญารู้ดีรู้ชอบแล้ว จะสามารถนำพาชีวิตให้พิชิตความโง่เขลาออกจากจิตใจ ทำให้มวลมนุษย์มีความสว่างไสว ประกอบด้วยเหตุผล ไม่เชื่องมงายในเรื่องราวต่างๆ



ในการดำเนินชีวิต ผู้มีความรู้ดีเป็นพื้นฐานให้ชีวิตมีความเจริญก้าวหน้า อย่างน้อยจะไม่ถูกหลอกลวง หรือไม่เกิดความผิดพลาดจนเกินไป



ความรู้ที่เป็นตัวปัญญาพัฒนามาโดยลำดับ อาศัยการปฏิบัติที่เสริมให้เกิดปัญญา ตามแนวทางพระพุทธศาสนา ย่อเป็น 3 คือ



1.สุตมยปัญญา คือ ปัญญาที่เกิดจากการศึกษาหาความรู้ เช่น การฟัง รวมถึงการอ่าน การฟังนั้นได้ความรู้ทางหู การอ่านได้ความรู้ทางตา นอกจากนี้ได้ความรู้ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย แต่ว่าทางเสริมความรู้เหล่านี้ ต้องอาศัยฟังทางหูเป็นข้อสำคัญจึงได้ยกการสดับฟังขึ้นมาเป็นทางให้เกิดปัญญา และปัญญาที่ได้จากการฟัง รวมทั้งการอ่าน และความรู้ทางจมูกทางลิ้นทางกายเหล่านี้ รวมเรียกว่า ปัญญาที่เกิดจากการสดับ



พระพุทธองค์ทรงแสดงอานิสงส์แห่งการฟังธรรมไว้หลายประการ คือ



- ผู้ฟังธรรมย่อมได้ฟังในสิ่งที่ยังไม่เคยฟัง



- สิ่งที่เคยฟังแล้วย่อมเข้าใจชัดขึ้น



- บรรเทาความสงสัยเสียได้



- มีความเห็นให้ถูกต้อง



- จิตของผู้ฟังย่อมผ่องใส



2. จินตามยปัญญา คือ ปัญญาที่เกิดจากความคิดค้น พิจารณาถึงเหตุผลที่ถูกต้อง เป็นทางให้เกิดปัญญา ปัญญาที่เกิดทางความคิดพินิจพิจารณา



3. ภาวนามยปัญญา คือ ปัญญาที่เกิดจากการฝึกฝนอบรมลงมือปฏิบัติ หรือทำให้เกิดการพัฒนาด้วยการบริหารจิตให้มั่นคง ที่พระพุทธองค์ได้ทรงปฏิบัติเป็นแบบอย่าง ซึ่งได้ผลอันน่าปรารถนามาแล้ว ปัญญาที่แท้จริงนั้นจะต้องเป็นปัญญาที่รู้ทั่วถึงสัจจะ คือความจริงตามเหตุผล หรือรู้ทั่วถึงเหตุผลตามความเป็นจริง เป็นความรู้จริงรู้ถูกต้อง มีเหตุผลได้จริง เพราะฉะนั้นปัญญากับสัจจะจึงต้องประกอบกันเป็นความรู้จริง



ภาวนามยปัญญานี้ เป็นปัญญาชั้นสูงสุดในพระพุทธศาสนา เพราะสามารถพัฒนาตนให้บรรลุประโยชน์สูงสุดคือ จิตหลุดพ้นจากความทุกข์โดยเด็ดขาดได้อย่างแท้จริง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น