วันเสาร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2553

วิดน้ำออกจากเรือ ข่าวสด

วิดน้ำออกจากเรือ

คอลัมน์ ธรรมะวันหยุด



สภาวะในปัจจุบันนี้ ประเทศของเรากำลังประสบกับอุทกภัยครั้งใหญ่เกือบครึ่งประเทศ ซึ่งทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก เราคนไทยทุกคนก็ควรที่จะช่วยเหลือกัน เอื้อเฟื้อกัน ให้กำลังใจกัน ในยามทุกยากเช่นนี้ ให้ข้ามพ้นอุทกภัยครั้งนี้ไปให้จงได้

อุทกภัย คือ ภัยจากน้ำท่วม เป็นภัยภายนอก เป็นภัยที่เกิดจากธรรมชาติ เป็นภัยที่ไม่สามารถห้ามได้ ไม่รู้จะมาเมื่อไหร่ วันไหน แต่น้ำคือภัยภายในคือ กิเลสนั้น สามารถจะวิดออกได้จากใจบุคคลผู้ที่ต้องการความสุข

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย เธอจงวิดน้ำออกจากเรือ คืออัตภาพนี้ เรือที่เธอวิดน้ำออกแล้ว จักพลันถึงฝั่ง เธอตัดราคะ โทสะ โมหะได้แล้ว แต่นั้น เธอจักถึงซึ่งพระนิพพาน ตามพุทธพจน์นี้ พระพุทธองค์ทรงชี้ให้เห็นว่าอัตภาพร่างกายเปรียบเสมือนเรือ ข้อปฏิบัติที่ขจัดกิเลส อาสวะ เปรียบด้วยการวิด กิเลสทั้งหลายเปรียบด้วยน้ำ

บุคคลที่อยู่ในเรือที่กำลังแล่นไป ต้องคอยระมัดระวังไม่ให้น้ำไหลเข้าเรือ ถ้าน้ำไหลเข้ามาในเรือ เรือก็จะถึงฝั่งได้ช้า หรืออาจอับปางลงในระหว่างทางก็ได้ เมื่อวิดน้ำให้แห้งอุดรูรั่ว แล้วรีบแจวรีบพาย ก็จะถึงที่หมายได้โดยไม่ช้า อัตภาพร่างกาย เปรียบเหมือนเรือ ใจก็เหมือนคนที่ไปในเรือหรือเจ้าของเรือ ถ้าไม่เอาใจใส่บำรุงรักษา ปล่อยให้มีรูรั่ว คือโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ รุมเร้า ก็จะถึงกาลอวสานแห่งชีวิตก่อนวัยอันควร แต่ถ้าเจ้าของเอาใจใส่ระมัดระวังไม่ประมาท ก็อาจดำรงชีพอยู่ได้จนถึงอายุขัย

อนึ่ง พระพุทธองค์ตรัสว่ามนุษย์ทั้งหลายที่ยังเวียนว่ายตายเกิด ไม่รู้จักจบจักสิ้น ก็เพราะไม่รู้แจ้งแทงตลอดธรรม 4 ประการ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา และวิมุตติ

การที่จะวิดน้ำคือ กิเลส ให้ลดน้อยลงหรือให้หมดไป ต้องอุดช่องที่กิเลสจะไหลเข้าได้ทั้ง 6 ช่อง คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เรียกว่าอายตนะภายใน เป็นที่ตั้งแห่งการกระทบของ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ และธรรมารมณ์ ซึ่งเป็นอายตนะภายนอก หากไม่รู้จักปิดช่องเหล่านี้ แม้ตั้งใจจะขจัดกิเลสให้เบาบางหรือหมดสิ้นไป ก็ไม่อาจทำได้ เพราะกิเลสทั้งหลาย ยังมีช่องให้หลั่งไหลเข้าได้ การที่จะปิดช่องกิเลสที่แล่นเข้ามาหาทั้ง 6 ช่อง พระพุทธองค์ตรัสว่า จะต้องใช้สติปัญญา เป็นเครื่องกั้น สติ คือความระลึกได้อยู่เสมอว่ากิเลสกำลังเข้ามา ปัญญา คือ ให้รอบรู้เท่าทันกิเลสว่า นี้เป็นเสียง นี้เป็นรูป เมื่อได้ยินเสียง ได้เห็นรูป ก็ให้รู้เท่าทัน และให้คิดเพียงสักว่าเห็น เพียงสักว่าแต่ได้ยินเท่านั้น

ฉะนั้น ท่านสาธุชนทั้งหลายควรหาโอกาสปลีกตนจากความกังวลวุ่นวายต่างๆ อบรมกาย วาจา ใจ ให้สงบ และไม่ควรพอใจหยุดอยู่ในคุณธรรมข้อใดข้อหนึ่งที่ได้ประสบ เมื่อกิเลสอาสวะยังเหลืออยู่ ควรพยายามเพื่อบรรลุธรรมชั้นสูงยิ่งๆ ขึ้นไป



พระเทพคุณาภรณ์ (โสภณ โสภณจิตฺโต ป.ธ. 9)

เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชร วรวิหาร / www.watdevaraj.com 0-2281-2430

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น